วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2555

ประวัติเจ้าพระยาสุลวฤาไชยสงคราม หรือเจ้าพ่อทิพย์ช้าง


ประวัติเจ้าพระยาสุลวฤาไชยสงคราม หรือเจ้าพ่อทิพย์ช้าง มีนามเดิมว่า "ทิพย์จักร" หรือ "หนานทิพย์ช้าง" เกิดที่ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เป็นผู้ที่มีสติปัญญาเฉลียวฉลาดมีความสามารถและมีกำลังกายแข็งแรง ท่านได้สร้างวีรกรรมกอบกู้เอกราชนครลำปางจากพม่า

ปรากฏว่าเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ดังนี้ ระหว่าปี พ.ศ.2272-2275 หัวเมืองลานนาทั้งหมดตกอยู่ในอำนาจของพม่า ชาวเมืองระส่ำระสายมีจราจลวุ่นวาย พม่าได้ส่งผู้ปกครองมาดูแลหัวเมืองล้านนาทั้งหมด ทั้ง เชียงใหม่ เชียงแสน เชียงราย แพร่ น่าน ลำพูน ส่วนนครลำปางอิทธพลพม่าแผ่เข้ามาแล้ว แต่พม่ายังมิได้ส่งผู้แทนมาปกครองเหมือนหัวเมืองอื่นๆ ขณะนั้นกษัตริย์ผู้ปกครองเมืองคือ เจ้าลิ้นก่าน ซื่งยังทรงพระเยาว์อยู่ ชาวนครลำปางจึงตั้งขุนนาง 4 คน เป็นผู้สำเร็จราชการชั่วคราว คือ แสนหนังสือ แสนเทพ แสนบุญเฮือน และจเรน้อย ขณะนั้น มีพระภิกษุรูปหนึ่งเป็นเจ้าอาวาสวัดนายางหรือวัดนายาบ (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง) มีวิทยาอาคม โดยมประชาชนให้ความนับถือและสมัครเป็นบริวารจำนวนมาก สมภารวัดสามขากับสมภารวัดบ้านฟ่อน ต่างก็สึกออกมาเป็นเสนาซ้ายขวา และตั้งเป็นก๊กเป็นเหล่าขึ้น ทำให้พม่าไม่พอใจและส่งท่าวมหายศผู้ครองเมืองลำพูนยกกองทัพมาปราบ

สมภารวัดนายางจึงคุมสมัครพรรคพวกออกรบกับกองทะพพม่าที่ตำบลป่าตันแต่ก็ต้านกองกำลังของพม่าไม่ได้ พ่ายหนีไปยังวัดพระธาตุลำปางหลวง พม่าก็ได้ตามไปล้อมไว้ พอตกกลางคืนสมภารวัดนายางและเสนาซ้ายขวาก็พากันหนีออกจากวงล้อมทหารพม่า แต่ก็หนีไม่พ้นถูกทหารพม่าใช้ปืนยิงถึงแก่ความตายทั้งคู่

หลังจากนั้นกองทัพพม่าก็ตั้งกองทัพที่วัดพระธาตุลำปางหลวง และท้าวมหายศได้แต่งตั้งให้ หาญฟ้าแมบ หาญฟ้าง้ำ หาญฟ้าฟื้น เข้าไปเจรจาความเมืองกับขุนนางทั้ง 4 โดยที่ตัวแทนของพม่าทั้ง 3 ได้เหน็บอาวุธเข้าไปด้วย พอได้โอกาสก็พากันฟันแทงขุนนางทั้ง 4 และยกกองกำลังหนุนเข้าไปปล้นเอาเมืองลำปางได้ แสนหนังสือ แสนเทพ และแสนบุญเฮือนถูกฆ่าตาย ส่วนจเรน้อยและเจ้าลิ้นก่านพากันหนีไปที่ประตูผา

ทำให้นครลำปางตกอยู่ในครอบครองของท้าวมหายศ ซื่งมีทัพตั้งมั่นอยู่ในเขตกำแพงวัดพระธาตุลำปางหลวง ช่วงนั้นท้าวมหายศทารุณกดขี่ราษฎร จนได้รับความเดือดร้อนกันไปทั่ว เพราะไม่มีใครมาปราบกองทัพท้าวมหายศได้
เจ้าอธิการวัดพระแก้วหรือวัดชมภู (ปัจจุบันอยู่ในเขตอำเภอเมืองลำปาง) มีความรู้ทางโหราศาสตร์ ประชาชนเลื่อมใสสมัครเข้าเป็นบริวารจำนวนมาก ประสงค์จะหาผู้มีความสามารถกู้อิสรภาพคืนจากพม่า และมีผู้แนะนำว่า หนานทิพย์ช้างพรานป่าเป็นผู้มีความสามารถ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด กำลังกายแข็งแรง และมีความชำนาญในการใช้อาวุธ

เจ้าอธิการวัดพระแก้วจึงไปขอร้องให้หนานทิพย์ช้างไปกอบกู้บ้านเมืองในครั้งนี้ โดยมีข้อเสนอว่า เมื่อหนานทิพย์ช้างกอบกู้บ้านเมืองมาจากพม่าได้ จะสถาปนาให้เป็นเจ้าครองเมืองลำปางต่อไป หนานทิพย์ช้างจึงขันออาสา และได้นำกำลังไพร่พลไปกว่า 300 คน และเมื่อไปถึงที่มั่นของข้าศึก หนานทิพย์ช้างก็ได้ลอบเข้าไปภายในวัดทางท่อระบายน้ำ แล้วก็ปลอมเป็นคนลำพูนที่เข้าไปส่งข่าวให้แก่ทัพพม่า หลอกถามทหารพม่าว่าแม่ทัพคือคนไหน ทหารพม่าก็หลงเชื่อชี้บอกแม่ทัพท้าวมหายศ ซื่งขณะนั้นกำลังเล่นหมากรุกอยู่ในศาลาหลวง หนานทิพย์ช้างจึงใช้ปืนพกที่พกมายิงแม่ทัพพม่าเสียชีวิต และสามารถยึดเมืองกลับคืนมาได้

ร่อยรอยการต่อสู้ด้วยดาบของหนานทิพย์ช้างกับท้าวมหายศปรากฏที่วิหารจามเทวี

จากนั้นหนานทิพย์ช้างก็ได้สถาปนาตน เป็น เจ้าทิพยจักรหลวง หรือ เจ้าสุลวฤาไชยสงคราม (พ่อเจ้าทิพย์ช้าง) ปกครองเมืองลำปางตั้งแต่ พ.ศ.2275 โดยปกครองเมืองลำปางนานถึง 27 ปี พระองค์ก็ได้พิราลัยในปี 2302 รวมอยุได้ 85 ปี

ขอบคุณที่มาจาก วารสารของดีเมืองลำปาง
จัดทำโดย องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น